ประกาศธนาคารอาคารสงเคราะห์
เรื่อง  การขายทรัพย์สินรอการขาย ในงานมหกรรมบ้านธนาคาร 66 จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ณ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่
-----------------------------------------

                ด้วยธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะขายทรัพย์สินรอการขายของธนาคาร ซึ่งได้มาจากการโอนทรัพย์ชำระหนี้ จากการบังคับคดีและจากการเช่าซื้ออันได้แก่ ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด โดยนำทรัพย์สินรอการขายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ออกขายในราคาพิเศษ ในงานมหกรรมบ้านธนาคาร 66 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจัดให้มีการขายและทำสัญญาจะซื้อจะขายในระหว่างวันที่ 2-12 มิถุนายน 2566 ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น.

ผู้สนใจซื้อสามารถจองซื้อทรัพย์ โดยต้องวางเงินประกันการซื้อทรัพย์สินเป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็ค จำนวน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ทุกรายการทรัพย์ และสามารถไปชมทรัพย์ด้วยตนเองได้ทุกวัน  ณ สถานที่ตั้งทรัพย์สินธนาคาร หรือดูผ่าน  Application : GHB All Home หรือเว็บไซต์บ้านมือสองของธนาคาร www.ghbhomecenter.com  

โดยผู้จองซื้อทรัพย์ได้จะต้องชำระเงินประกันการเข้าอยู่อาศัยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ของราคาที่ซื้อได้ และเงินมัดจำงวดที่ 1 ในวันทำสัญญาจะซื้อขาย และสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร” ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข การใช้อัตราดอกเบี้ยสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร หรือผ่อนชำระเงินดาวน์โดยไม่เสียดอกเบี้ย ภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของมาตรการจูงใจสำหรับผู้ซื้อทรัพย์ธนาคาร ตามที่ธนาคารกำหนด

                ทรัพย์สินรอการขายที่ธนาคารนำออกขาย ขายตามสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ โทร.02-645-9000 กด 5

เวลาทำการ จ.-ศ. เวลา 08.30-16.30 น.

ระเบียบ เงื่อนไข ข้อสัญญา วิธีการซื้อทรัพย์สินรอการขายของธนาคาร
งานมหกรรมบ้านธนาคาร 66 จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล)
-----------------------------------------

ข้อ 1. ในวันซื้อทรัพย์สินรอการขายให้ผู้สนใจเข้าจองซื้อ ลงชื่อ ที่อยู่ รายการทรัพย์สินรอการขายที่จะซื้อลงในแบบคำขอซื้อบ้านมือสอง  พร้อมกับแสดงบัตรประจำตัว  ซึ่งธนาคารฯจัดขายในงานมหกรรมบ้านธนาคาร 66 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ เคาน์เตอร์ ฝ่ายบริหาร NPA อาคาร 2 ชั้น 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ในระหว่างวันที่ 2 – 12 มิถุนายน 2566 โดยธนาคารจะขายให้แก่ผู้วางเงินซื้อรายแรก แต่หากมีผู้สนใจซื้อทรัพย์เดียวกันมาพร้อมกัน  จะใช้วิธีการเปิดซองเสนอราคาและธนาคารจะขายให้แก่ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดเท่านั้น

ข้อ 2. ผู้จองซื้อทรัพย์สินรอการขาย จะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ณ วันที่จองซื้อ 

ข้อ 3. ผู้จองซื้อในนามบุคคลอื่น หรือ ในนามนิติบุคคล ต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์ 30 บาท) ต่อธนาคารก่อนการซื้อหากไม่แสดงหนังสือมอบอำนาจ ธนาคารจะถือว่าผู้ลงชื่อจองซื้อกระทำในนามตนเอง และในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อได้จะขอเปลี่ยนใส่ชื่อผู้อื่นโดยอ้างว่าตนเป็นตัวแทนมิได้

ข้อ 4. ทรัพย์สินรอการขายที่ธนาคารนำออกขาย  ธนาคารขายตามสภาพทรัพย์ที่เป็นจริงของทรัพย์สินในวันที่ลงประกาศขาย เพื่อประโยชน์ของผู้จองซื้อ ควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สิน ณ สถานที่จริงก่อนการตัดสินใจจองซื้อ และให้ถือว่าผู้จองซื้อได้รับทราบถึงสภาพที่แท้จริงของทรัพย์สินโดยละเอียดแล้ว

ข้อ 5. ธนาคาร สงวนสิทธิ์ในการถอนบ้านมือสองรายการหนึ่งรายการใดออกจากการขายได้ และสงวนสิทธิ์ในการกำหนดเงื่อนไข และวางข้อกำหนดอันชอบด้วยกฎหมายในการขายครั้งนี้

ข้อ 6. ในการชำระราคา ผู้จองซื้อได้ต้องวางเงินมัดจำการซื้อทรัพย์เป็นเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค เป็นเงินจำนวน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ทุกรายการทรัพย์ ในวันซื้อได้ และผู้ซื้อได้จะต้องชำระเงินประกันเข้าอยู่อาศัยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ของราคาที่ซื้อได้และเงินมัดจำงวดที่ 1 ในวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย

ข้อ 7. ผู้จองซื้อทรัพย์ได้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์“สินเชื่อสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร”ทั้งนี้เงื่อนไขอื่นๆให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข การใช้อัตราดอกเบี้ยสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร ตามที่ธนาคารกำหนด

ข้อ 8. สำหรับผู้ซื้อจองทรัพย์ได้เป็นกลุ่มนักลงทุน ที่ซื้อทรัพย์รายย่อยตั้งแต่ 2 รายการขึ้นไป หรือมีประวัติการซื้อทรัพย์ของธนาคารที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายรายย่อยตั้งแต่ 5 รายการขึ้นไป ทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลและพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถใช้มาตรการจูงใจสำหรับผู้ซื้อทรัพย์ธนาคารโดยปลอดอัตราดอกเบี้ย 12 เดือนตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข การใช้ผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร”

ข้อ 9. ผู้จองซื้อทรัพย์ที่ไม่สามารถใช้ ผลิตภัณฑ์“สินเชื่อสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร” ได้ให้ใช้มาตรการจูงใจสำหรับผู้ซื้อทรัพย์ธนาคารโดยปลอดอัตราดอกเบี้ย 12 เดือน , 24 เดือน หรือ 48 เดือน ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ของมาตรการจูงใจผู้ซื้อทรัพย์ธนาคารแต่ละมาตรการ ดังนี้

       9.1 กรณีชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมดในคราวเดียว เป็นเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค ภายในวันที่ 2 – 12 มิถุนายน 2566 พร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 45 วันนับจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย

       9.2 ผู้ซื้อได้จะต้องทำสัญญาจะซื้อจะขาย ภายในวันที่ 2 – 12 มิถุนายน 2566

            9.2.1 กรณีผู้จองซื้อได้ ประสงค์ขอชำระเงินดาวน์ทันที ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของราคาที่ซื้อได้ ธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ โดยธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ต่อปี ระยะเวลา 1 ปี หรือ หากผู้ซื้อได้ประสงค์ขอผ่อนชำระเงินดาวน์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของราคาที่ซื้อได้สามารถผ่อนดาวน์ได้ ไม่เกิน 12 เดือน โดยปลอดดอกเบี้ย เมื่อผ่อนชำระเงินดาวน์ครบแล้วให้ขอสินเชื่อได้ตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ และอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศธนาคาร (เงื่อนไขอื่นๆ ตามเกณฑ์มาตรการจูงใจผู้ซื้อทรัพย์)

            9.2.2 กรณีผู้จองซื้อได้ ประสงค์ขอชำระเงินดาวน์ทันที ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ซื้อได้ ธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ โดยธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ต่อปี ระยะเวลา 2 ปี หรือ หากผู้ซื้อได้ประสงค์ขอผ่อนชำระเงินดาวน์ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ซื้อได้ สามารถผ่อนดาวน์ได้ไม่เกิน 24 เดือน โดยปลอดดอกเบี้ย เมื่อผ่อนชำระเงินดาวน์ครบแล้วให้ขอสินเชื่อได้ตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ และอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศธนาคาร (เงื่อนไขอื่นๆ ตามเกณฑ์มาตรการจูงใจผู้ซื้อทรัพย์)

            9.2.3 กรณีผู้จองซื้อได้ ประสงค์ขอผ่อนชำระเงินดาวน์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ซื้อได้ สามารถผ่อนดาวน์ได้ไม่เกิน 48 เดือน โดยปลอดดอกเบี้ย (สำหรับทรัพย์ถือครองเกิน 3 ปี) เมื่อผ่อนชำระเงินดาวน์ครบแล้วให้ขอสินเชื่อได้ตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ  และอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศธนาคาร (เงื่อนไขอื่นๆ ตามเกณฑ์ของมาตรการจูงใจผู้ซื้อทรัพย์) อนึ่ง หากราคาที่ซื้อได้สูงกว่าราคาประเมิน ผู้ซื้อได้จะต้องชำระเงินในส่วนที่เกินรวมกับเงินดาวน์

       9.3 หากผู้จองซื้อได้ไม่ดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลาตามข้อ 9.1, 9.2 ข้างต้น ธนาคารฯ จะริบเงินมัดจำในการดำเนินการ โดยให้ผู้ซื้อได้ ติดต่อที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ บริหารหนี้สาขาที่รับผิดชอบดูแลทรัพย์ที่ซื้อได้

ข้อ 10. กรณีลูกหนี้เดิม บิดา มารดา คู่สมรส รวมทั้งบุตรของลูกหนี้เดิม หากซื้อทรัพย์ได้จะต้องชำระหนี้ส่วนที่เหลือ หลังจากการบังคับคดีให้แล้วเสร็จก่อนการโอนกรรมสิทธิ์

ข้อ 11. กรณีที่ผู้จองซื้อทรัพย์เคยมีประวัติผิดเงื่อนไขการซื้อทรัพย์ NPA กับธนาคารฯ ย้อนหลัง 3 ปี นับจากวันยื่นคำร้องหรือวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย ธนาคารฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่พิจารณาให้ใช้เงื่อนไขผ่อนชำระราคาเงินดาวน์ตามมาตรการจูงใจผู้ซื้อทรัพย์ธนาคารโดยปลอดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงสิทธิในการพิจารณาสินเชื่อ

ข้อ 12. ยกเว้นหลักเกณฑ์ การจำกัดจำนวนการซื้อทรัพย์สถานะขายมัดจำไม่เกินจำนวน 5 รายการ กรณีทรัพย์ที่อยู่ในความดูแลของฝ่ายบริหาร NPA หรือไม่เกิน 10 รายการ กรณีทรัพย์ที่อยู่ในความดูแลของฝ่ายบริหารหนี้ภูมิภาคและราคาเสนอซื้อกับวงเงินกู้ปัจจุบันไม่เกิน 10 ล้านบาท ที่ผู้ซื้อจะต้องซื้อทรัพย์เป็นเงินสด เพื่อสะดวกต่อการขายทรัพย์      

ข้อ 13. ผู้จองซื้อซื้อได้เป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียม ค่าภาษี อากร ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่างๆในการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อ 14. สำหรับบ้านที่ธนาคารขาย หากมีผู้อยู่อาศัยและผู้อาศัยไม่ใช่ผู้ซื้อได้ ธนาคารจะดำเนินการทางกฎหมายให้และเมื่อครบกำหนดชำระเงินมัดจำแล้ว ผู้ซื้อทรัพย์ต้องรับโอนกรรมสิทธิ์ตามสัญญาจะซื้อจะขายฉบับนี้ไม่ว่าผู้อาศัยจะย้ายออกหรือไม่ก็ตาม

ข้อ 15. เงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า