ด้วยธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะขายบ้านมือสองของธนาคารซึ่งได้มาจากการโอนทรัพย์ชำระหนี้และจากการบังคับคดี อันประกอบด้วย ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด ในส่วนภูมิภาคพร้อมกันทั่วประเทศในราคาพิเศษ โดยจะนำทรัพย์ออกขาย ในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2561 เวลา 9.00 น.– 16.00 น.   ณ  ที่ทำการของสาขาภูมิภาค  ธนาคารจะขายให้แก่ผู้วางเงินซื้อรายแรก  แต่หากผู้สนใจซื้อมาพร้อมกัน จะใช้วิธีการจับสลาก

                      ผู้สนใจซื้อจะต้องวางเงินมัดจำการซื้อทรัพย์เป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็ค จำนวน 10,000 บาท (ทรัพย์ราคาไม่เกิน  500,000 บาท) และวางมัดจำ 20,000 บาท(ทรัพย์ราคาเกิน 500,000 บาท)ในงาน NPA ครึ่งปี ครึ่งราคา 2018 @ ภูมิภาค  และสามารถไปดูบ้านด้วยตนเองได้ทุกวัน ณ สถานที่ตั้งทรัพย์สิน และธนาคารให้กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 90% ส่วนที่เหลือผ่อนชำระนาน 12 เดือน หรือ กู้ได้ไม่เกิน  80% ส่วนที่เหลือผ่อนชำระนาน 24 เดือน หรือ กู้ได้ไม่เกิน 60 % ส่วนที่เหลือผ่อนชำระได้นาน 48 เดือนโดยไม่เสียดอกเบี้ย (ยกเว้นอาคารประเภทแฟลตให้กู้ได้สูงสุด 80% ส่วนที่เหลือผ่อนชำระได้นาน 24 เดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ย) โดยธนาคารจะพิจารณาสินเชื่อตามระเบียบการให้สินเชื่อของธนาคาร
        
                       บ้านมือสองที่ธนาคารนำออกขาย ขายตามสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

                       ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายบริหารหนี้ภูมิภาคโทรศัพท์ 0-2202-2036,  0-2202-1170 หรือที่ทำการสาขาในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ หรือ www.ghbhomecenter.com

ข้อ 1  ในวันซื้อบ้านมือสอง ให้ผู้สนใจเข้าซื้อ ลงชื่อ ที่อยู่ รายการบ้านมือสองที่จะซื้อลงในแบบคำขอซื้อบ้านมือสอง ซึ่งธนาคารจัดให้ใน งานมกรรม  NPA ครึ่งปี ครึ่งราคา 2018 @ ภูมิภาค พร้อมกับแสดงสำเนาบัตรประจำตัวต่อธนาคาร โดยเริ่ม ตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 น.  ในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2561  ธนาคารจะขายให้แก่ผู้วางเงินซื้อรายแรก แต่หากผู้สนใจซื้อมาพร้อมกันจะใช้วิธีการจับสลาก

ข้อ 2  ผู้ซื้อในนามบุคคลอื่น ต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจต่อธนาคารก่อนการซื้อ ถ้าไม่แสดงหนังสือมอบอำนาจ ธนาคารจะถือว่าผู้ลงชื่อซื้อกระทำในนามตนเอง และในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อจะขอเปลี่ยนใส่ชื่อผู้อื่นโดยอ้างว่าตนเป็นตัวแทนมิได้

ข้อ 3  ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการถอนบ้านมือสองรายการหนึ่งรายการใดออกจากการขายได้ และสงวนสิทธิ์ในการกำหนดเงื่อนไข และวางข้อกำหนดอันชอบด้วยกฎหมายในการขายครั้งนี้

ข้อ 4  ในการชำระราคาผู้ซื้อได้ต้องวางเงินมัดจำการซื้อทรัพย์เป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็คจำนวน  10,000 บาท (ทรัพย์ราคาไม่เกิน  500,000 บาท) และวางมัดจำการซื้อทรัพย์จำนวน  20,000 บาท (ทรัพย์ราคาเกิน 500,000 บาท) ในทันทีที่ซื้อได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของราคาขายและส่วนที่เหลือให้ดำเนินการ ดังนี้

           4.1 ผู้ซื้อได้ประสงค์ชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็ค ให้ทำสัญญาจะซื้อจะขาย ภายในวันที่  4 – 15  มิถุนายน 2561 พร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 45 วันนับจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย
           4.2  หากผู้ซื้อได้ประสงค์จะขอชำระเงินดาวน์ทันที  ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ธนาคาร จะพิจารณาให้สินเชื่อส่วนที่เหลือ ไม่เกินร้อยละ 80 แต่ไม่เกินส่วนที่เหลือ และยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 4 – 15  มิถุนายน 2561 โดยธนาคารพิจารณาให้สินเชื่อพิเศษ อัตราดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 2 ปี(เงื่อนไขอื่นๆตามเกณฑ์ของมาตรการพิเศษ)

           4.3  หากผู้ซื้อได้ประสงค์ขอผ่อนชำระเงินดาวน์ (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ซื้อได้) สามารถผ่อนดาวน์ได้ไม่เกิน  24 เดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ย  ให้ทำสัญญาจะซื้อจะขายตั้งแต่วันที่ 4 – 15  มิถุนายน 2561 และหากประสงค์จะเข้าอยู่อาศัยต้องชำระเงินประกัน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ของราคาที่ซื้อ เมื่อผ่อนชำระเงินดาวน์ครบแล้วให้ขอสินเชื่อส่วนที่เหลือไม่เกินร้อยละ 80  แต่ไม่เกินราคาส่วนที่เหลือ  และอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศธนาคาร (เงื่อนไขอื่นๆตามเกณฑ์ของมาตรการพิเศษ)

           4.4  หากผู้ซื้อได้ประสงค์ขอผ่อนชำระเงินดาวน์ (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ซื้อได้) สามารถผ่อนดาวน์ได้ไม่เกิน 48 เดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ย ให้ทำสัญญาจะซื้อจะขาย ตั้งแต่วันที่  4 – 15  มิถุนายน 2561 และหากประสงค์จะเข้าอยู่อาศัยต้องชำระเงินประกัน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ของราคาที่ซื้อ เมื่อผ่อนชำระเงินดาวน์ครบแล้วให้ขอสินเชื่อส่วนที่เหลือไม่เกินร้อยละ 60 แต่ไม่เกินราคาส่วนที่เหลือ และอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศธนาคาร(เงื่อนไขอื่นๆตามเกณฑ์ของมาตรการพิเศษ)

           4.5  กรณีลูกหนี้เดิม บิดา มารดา รวมทั้งบุตรของลูกหนี้เดิมซื้อทรัพย์ได้ จะต้องชำระหนี้ส่วนที่เหลือ หลังจากการบังคับคดีให้แล้วเสร็จ ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์

                   หากผู้ซื้อได้ไม่ดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลาตามข้อ 4.1, 4.2, 4.3, หรือ 4.4ข้างต้น ธนาคารจะริบเงินมัดจำ ในการดำเนินการให้ผู้ซื้อได้ติดต่อ งานบริหารหนี้สาขา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาที่รับผิดชอบดูแลทรัพย์ที่ซื้อได้

           4.6  กรณีที่ผู้ซื้อเคยมีประวัติผิดเงื่อนไขการชำระเงินกู้หรือการซื้อทรัพย์กับธนาคาร ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ไม่พิจารณาให้ใช้เงื่อนไขผ่อนชำระราคาตามมาตรการ(พิเศษ)ผ่อนดาวน์ 24 เดือน หรือ 48 เดือน รวมถึงสิทธิในการพิจารณาสินเชื่อ

           4.7  หากผู้ซื้อเคยมีประวัติการซื้อทรัพย์กับธนาคาร สถานะขายมัดจำรวมกับแปลงที่ซื้อใหม่ในครั้งนี้เกิน  5 สัญญา(หรือ 10 สัญญา ในกรณีทรัพย์ในส่วนภูมิภาค) และราคาซื้อในครั้งนี้ รวมกับราคาทรัพย์สถานะขายมัดจำ รวมกับวงเงินกู้ปัจจุบันเกิน 10 ล้านบาท ผู้ซื้อได้จะต้องชำระราคาเป็นเงินสดเท่านั้น

ข้อ 5  ท่านที่ซื้อบ้านมือสองได้แล้ว จะขอสินเชื่อเพิ่มเพื่อต่อเติมหรือปลูกสร้างอาคารก็ได้ โดยธนาคารจะพิจารณาให้ตามระเบียบสินเชื่อของธนาคาร

ข้อ 6  ผู้ซื้อได้เป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียม ค่าภาษี อากร ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อ 7  บ้านมือสองที่ธนาคารนำออกขาย ธนาคารขายตามสภาพทรัพย์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ข้อ 8  สำหรับบ้านที่ธนาคารขายมีผู้อยู่อาศัยธนาคารให้ผู้ซื้อ ดำเนินการกับผู้อยู่อาศัยและเมื่อครบกำหนดชำระเงินมัดจำแล้ว ผู้ซื้อยินยอมรับโอนกรรมสิทธิ์ตามสัญญาจะซื้อจะขายฉบับนี้ไม่ว่าผู้อาศัยจะย้ายออกหรือไม่ก็ตาม